วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2564

Top 5 มหาวิทยาลัยด้านภาษาและวรรณกรรมอังกฤษในภูมิภาคเอเชีย


1. The University of Hong Kong


รู้จักกันในนาม 'มหาวิทยาลัยระดับโลกแห่งเอเชีย' มหาวิทยาลัยฮ่องกงได้รับการจัดอันดับที่ 22 ของโลกและอันดับที่ 1 ในฮ่องกงโดย QS World University Rankings in 2021 มหาวิทยาลัยฮ่องกงก่อตั้งขึ้นในปี 1911 และตั้งอยู่ในเมืองที่มีชีวิตชีวาและเป็นสากลมากที่สุดแห่งหนึ่งของโล มหาวิทยาลัยให้ความรู้ความเข้าใจที่เป็นเอกลักษณ์เกี่ยวกับภูมิทัศน์ ของโลก (global landscape) ฮ่องกงเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากที่สุดในโลก ด้วยแรงงานที่มีความหลากหลาย และการสร้างศูนย์กลางธุรกิจระดับโลก นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเรียนรู้และเข้าถึงวัฒนธรรมจีนและการดำเนินธุรกิจมหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพการสอนและการเรียนรู้ ในปี 2021 12 สาขาวิชาที่เปิดสอนในมหาวิทยาลัยได้รับการจัดอันดับให้เป็น 25 อันดับแรกของโลกใน QS World University Rankings by Subjects เนื่องจากการรับนักศึกษาต่างชาติเข้ามาเรียนต่อเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีการรับสมัครคณาจารย์จากทั่วโลกและการมีส่วนร่วมในความร่วมมือระหว่างประเทศ




2. National University of Singapore


NUS ก่อตั้งขึ้นในปี 1905 หรือเมื่อ 114 ปีที่แล้ว ในสมัยที่สิงคโปร์ยังเป็นส่วนหนึ่งของอาณานิคมอังกฤษ โดยในช่วงแรกของการก่อตั้งนั้น NUS มีฐานะเป็นเพียงวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ ก่อนที่จะเริ่มขยายไปสอนสาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และสาขาอื่นๆ ในเวลาต่อมา

NUS ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสิงคโปร์ มีสถานะเป็นมหาวิทยาลัยรัฐบาล ปัจจุบันเปิดสอนทั้งสิ้น 17 คณะ

ในปี 2018
NUS มีจำนวนนักศึกษาทั้งหมด 35,908 คน
แบ่งเป็นระดับปริญญาตรี 27,604 คน
ระดับปริญญาโท 8,304 คน
โดยเป็นนักศึกษาที่มาจาก 100 ประเทศทั่วโลก

ค่าเล่าเรียนในระดับปริญญาตรี 392,000 ถึง 1,400,000 บาทต่อปี ซึ่งขึ้นกับสาขาวิชาที่เรียน โดยสาขาวิชาที่ค่าเรียนสูงคือ คณะแพทยศาสตร์และทันตแพทยศาสตร์ มีค่าเรียนอยู่ที่ปีละประมาณ 1,400,000 บาท อัตราการจ้างงานสำหรับนักศึกษาที่จบจาก NUS อยู่ที่ 90% ขณะที่เงินเดือนเริ่มต้นของนักศึกษาจากที่นี่เฉลี่ยอยู่ที่ 114,000 บาท

นอกจากนี้ จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าของโลกโดย QS World University Rankings ในปี 2019 นั้น NUS เป็นมหาวิทยาลัยอันดับที่ 1 ของเอเชียและอันดับที่ 11 ของโลก




3. The University of Tokyo


มหาวิทยาลัยโตเกียวเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1877 แรกเริ่มของการก่อตั้งมหาวิทยาลัยโตเกียวนั้น เกิดจากการรวมตัวกันของ Tokyo Kaisei School และ Tokyo Medical School โดยมีอยู่ 4 คณะ ได้แก่ คณะนิติศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมวิทยา และคณะแพทยศาสตร์ เป็นมหาวิทยาลัยเตรียมอุดมศึกษา โดยที่คณะนิติศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ และ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมวิทยา จะตั้งอยู่ที่วิทยาเขตคันดะ (Kanda area) ส่วนคณะแพทยศาสตร์ตั้งอยู่ที่วิทยาเขตฮงโกะ (Hongo area) หลังจากนั้นมหาวิทยาลัยโตเกียวยังได้มีการรวมตัวกันของสถาบันอื่นๆอีก เช่น Imperial College of Engineering และ Tokyo School of Agriculture and Forestry เพื่อเป็นมหาวิทยาลัยแห่งการวิจัย หลายปีที่ผ่านมามหาวิทยาลัยโตเกียวได้ผ่านการเปลี่ยนชื่อมหาวิทยาลัยอยู่หลายครั้ง จนปัจจุบันมีชื่อเต็มๆของมหาวิทยาลัยก็คือ National University Corporation, the University of Tokyo เนื่องจากเกิดจากการรวมตัวกันของมหาวิทยาลัยแห่งชาติหลายๆมหาวิทยาลัยรวมกัน ในปัจุบันมหาวิทยาลัยโตเกียวประกอบไปด้วย 10 คณะ 15 บัณฑิตศึกษา 11 สถาบันวิจัยในเครือ 13 ศูนย์รวมมหาวิทยาลัย 3 ห้องสมุดในสังกัด และ 2 สถาบันการศึกษาระดับสูง นอกจากนี้ยังมีคณะของบัณฑิตศึกษา และสถาบันวิจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย และหนึ่งในนั้นคือโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยโตเกียว (The University of Toyko Hospital)




4. Peking University


มหาวิทยาลัยปักกิ่งนิยมเรียกกันว่าเป่ยต้า เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติของจีน 1 ใน 9 (C9 League) เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยชิงหวา เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ชั้นนำของรัฐที่มีชื่อเสียง มีสถาปัตยกรรมแบบจีนที่โดดเด่น มหาวิทยาลัยปักกิ่งมีบทบาทต่อการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองในปี พ.ศ 2532 ในปัจจุบันมหาวิทยาลัยปักกิ่งเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจีน และจากการจัดลำดับโดยคอกโครัลลีไซมอนส์ มหาวิทยาลัยปักกิ่งอยู่ในลำดับที่ 22 ของโลก และลำดับ 5 ในเอเชีย เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ (National Key Universities) ที่มีอัตราการสอบแข่งขันเข้าศึกษามากที่สุดในแผ่นดินจีน







5. Universiti Malaya

 


Universiti Malaya (UM) มีประวัติศาสตร์อันมั่งคั่งและโดดเด่นในฐานะสถาบันอุดมศึกษาที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศมาเลเซีย ทางมหาวิทยาลัยได้รับการยอมรับระดับนานาชาติในด้านคุณภาพของการศึกษาด้วยการอยู่ในอันดับที่ 59 ของโลกจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกประจำปี 2021 โดย QS นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังเป็นสถาบันการศึกษาระดับท็อปหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของโลกและเป็นมหาวิทยาลัยเพียงแห่งเดียวของประเทศที่อยู่ในระดับท็อป 60 ของโลก มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ด้วยจำนวนนักศึกษามากกว่า 27,000 คนซึ่งรวมถึงนักศึกษานานาชาติถึง 3,500 คน มหาวิทยาลัยมีชุมชนนักศึกษานานาชาติที่มีความหลากหลายจากมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก ซึ่งช่วยให้เกิดประสบการณ์นักศึกษาที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมีคุณค่าอันเกิดจากการรวมตัวกันของนักศึกษาจากหลากหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรม นักศึกษาจะมีหลักสูตรให้เลือกเรียนมากกว่า 200 หลักสูตรทั้งระดับปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรี อีกทั้ง UM ยังได้รับการยกย่องในฐานะสถาบันการวิจัยระดับชั้นนำ ด้วยการมีศูนย์วิจัยมากกว่า 50 ศูนย์ที่มุ่งเน้นในการผลิตผลงานวิจัยที่มีคุณภาพระดับโลกและมีอิทธิพลต่อการพัฒนาสังคมโลกโดยรวมด้วย

Top 5  มหาวิทยาลัยด้านภาษาและวรรณกรรมอังกฤษในภูมิภาคเอเชีย 1. The University of Hong Kong รู้จักกันในนาม ' มหาวิทยาลัยระดับโลกแห่งเอเชีย...